รับผลิตพิมพ์ซองบรรจุภัณฑ์ โรงพิมพ์ซองฟอยล์ ซองฟอยล์ ถุงซิป ซองครีม ซองลามิเนต ซองซาเช่ ซองใส่ขนม ซองขนม ซองครีม คุณภาพดี ราคาโรงงาน

หน้าแรก

/

/

กฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ PET พลาสติก

กฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ PET พลาสติก

พลาสติก PET (Polyethylene terephthalate) เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในบรรจุภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทอื่นๆ เนื่องจากมีความทนทาน ปลอดภัยต่ออาหาร และสามารถรีไซเคิลได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาขยะพลาสติก PET ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยจึงออกกฎหมายและมาตรฐานต่างๆ เพื่อควบคุมการผลิต การใช้ และการจัดการขยะพลาสติก PET ดังนี้

1. พระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดการขยะมูลฝอย พ.ศ. 2550

พระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดการขยะมูลฝอย พ.ศ. 2550 กำหนดให้ผู้ผลิต ผู้ขาย และผู้บริโภคมีความรับผิดชอบต่อขยะที่เกิดขึ้น โดยผู้ผลิตต้องออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ง่าย ผู้ขายต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการจัดการขยะแก่ผู้บริโภค และผู้บริโภคต้องคัดแยกขยะก่อนทิ้ง

2. ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรฐานสำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก พ.ศ. 2562

ประกาศฉบับนี้กำหนดให้ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรฐานที่กำหนด เช่น ต้องใช้พลาสติกรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์ ต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ง่าย และต้องติดฉลากแสดงประเภทของพลาสติก

3. มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย มอก. 2310-2561 เรื่อง บรรจุภัณฑ์พลาสติก – ขวดพลาสติกเทอร์โมฟอร์มิงสำหรับน้ำดื่ม

มาตรฐานฉบับนี้กำหนดคุณสมบัติของขวดพลาสติกเทอร์โมฟอร์มิงสำหรับน้ำดื่ม เช่น ความหนาของขวด ความแข็งแรงของขวด และความสามารถในการทนความร้อน

4. มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย มอก. 2311-2561 เรื่อง บรรจุภัณฑ์พลาสติก – ขวดพลาสติกเป่าสำหรับน้ำดื่ม

มาตรฐานฉบับนี้กำหนดคุณสมบัติของขวดพลาสติกเป่าสำหรับน้ำดื่ม เช่น ความหนาของขวด ความแข็งแรงของขวด และความสามารถในการทนความร้อน

5. มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย มอก. 2312-2561 เรื่อง บรรจุภัณฑ์พลาสติก – ฝาขวดพลาสติกสำหรับน้ำดื่ม

มาตรฐานฉบับนี้กำหนดคุณสมบัติของฝาขวดพลาสติกสำหรับน้ำดื่ม เช่น ความแข็งแรงของฝาขวด ความสามารถในการปิดผนึก และความสามารถในการทนความร้อน

6. มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย มอก. 2313-2561 เรื่อง บรรจุภัณฑ์พลาสติก – ภาชนะพลาสติกสำหรับน้ำดื่ม

มาตรฐานฉบับนี้กำหนดคุณสมบัติของภาชนะพลาสติกสำหรับน้ำดื่ม เช่น ความหนาของภาชนะ ความแข็งแรงของภาชนะ และความสามารถในการทนความร้อน

ผลของกฎหมายและมาตรฐาน

กฎหมายและมาตรฐานเหล่านี้มีผลต่อผู้ผลิต ผู้ขาย และผู้บริโภค ดังนี้

  • ผู้ผลิต: ผู้ผลิตต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตเพื่อใช้พลาสติกรีไซเคิลและออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ง่าย
  • ผู้ขาย: ผู้ขายต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการจัดการขยะแก่ผู้บริโภค
  • ผู้บริโภค: ผู้บริโภคต้องคัดแยกขยะพลาสติก PET ก่อนทิ้ง
แนวทางการพัฒนาในอนาคต

รัฐบาลไทยมีแนวทางการพัฒนาในอนาคตเพื่อลดปัญหาขยะพลาสติก PET ดังนี้

  • ส่งเสริมการรีไซเคิล: รัฐบาลจะสนับสนุนการลงทุนในโรงงานรีไซเคิลพลาสติก และรณรงค์ให้ประชาชนคัดแยกขยะพลาสติก PET เพื่อนำไปรีไซเคิล
  • ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว: รัฐบาลจะออกกฎหมายเพื่อควบคุมการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เช่น ห้ามใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว และห้ามใช้หลอดพลาสติก
  • พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: รัฐบาลจะสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
บทบาทของภาคประชาชน

ภาคประชาชนมีบทบาทสำคัญในการลดปัญหาขยะพลาสติก PET ดังนี้

  • คัดแยกขยะพลาสติก PET: ประชาชนควรคัดแยกขยะพลาสติก PET ก่อนทิ้ง เพื่อนำไปรีไซเคิล
  • ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว: ประชาชนควรลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เช่น พกถุงผ้าไปช้อปปิ้ง และใช้แก้วน้ำส่วนตัว
  • สนับสนุนสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ประชาชนควรเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
สรุป

กฎหมาย มาตรฐาน และแนวทางการพัฒนาต่างๆ ของรัฐบาลไทย ล้วนมีจุดประสงค์เพื่อลดปัญหาขยะพลาสติก PET แต่การแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ประชาชนควรตระหนักถึงปัญหามลพิษพลาสติก และร่วมมือกันลดการใช้พลาสติก คัดแยกขยะ และสนับสนุนสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของเรา

Share this post

บทความเพิ่มเติม